ประวัติตามคำบอกเล่าของถ้ำเขาพระ



ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา สมัยที่มีการก่อสร้างพระบรมธาตุครอบพระบรมธาตุองค์เก่า  
เมื่อชาวต่างเมืองผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนาได้ข่าวจึงพากันรวบรวมสิ่งของต่างๆเช่น
แก้ว แหวน เงินทอง ถ้วยชาม ของมีค่า พระพุทธรูปองค์เล็กๆ
เพื่อมาร่วมบรรจุไว้ในพระบรมธาตุด้วย แต่ระหว่างเดินทางนั้นชาวต่างเมือง
ได้ทราบข่าวว่า การสร้างพระบรมธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงตัดสินใจหยุด
และเดินทางกลับ เมื่อผ่านจุดถ้ำเขาพระจึงได้สร้างพระพุทธรูปทั้ง3องค์ขึ้นมา
พร้อมทั้งฝังทรัพย์สินเงินทองไว้ และนำของมีค่าต่างๆมาเก็บซ่อนไว้ตามซอกถ้ำ
รวมถึงพระพุทธรูปไม้แกะสลักอีกเป็นจำนวนมาก
(มีบางองค์ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดราษฏร์รังสรรค์)

ต่อมาพระพุทธรูปทั้ง3องค์ถูกชาวบ้านมาขุดรื้อที่ฐานพระ เอาของมีค่าไปหมด
อีกทั้งยังทำลายพระพุทธรูปเสียหายเป็นอันมาก
(พบว่าฐานเป็นดินและในองค์พระเป็นไม้แก่นยืนจากฐานจรดเศียรพระ)
ภายหลังจึงมีการบูรณะซ่อมแซม ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
(ชาวบ้านได้เรียกพระพุทธรูปองค์ดำว่า หลวงพ่อเมือง) 

 

สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำเขาพระ หรือที่คนท้องถิ่นอ่าวลึกเรียกว่า “วัดถ้ำ” เป็นสถานที่เงียบสงบ ร่มรื่น โล่งโปร่งเย็นสบาย ใกล้ชิดธรรมชาติ ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร มีลมพัดโชยสม่ำเสมอ เหมาะอย่างยิ่งกับการปลีกตัวมาพักกายพักใจ อีกทั้งยังมีครูบาอาจารย์ที่เมตตา เอาใจใส่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม  ถ้ำเขาพระจึงเป็นสถานที่ที่เอื้อสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง

หลวงพ่อสมบูรณ์ ฉตฺตสุวณฺโณ ได้มาบุกเบิกพัฒนาตั้งแต่ปี 2531
แต่เดิมนั้นสถานที่นี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วยเถาวัลย์ ต้นหนาม จอมปลวก
มีเพียงบริเวณหน้าถ้ำเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้
(ชาวบ้านบริเวณนี้ ก็ได้ใช้เป็นที่เผาศพ และฝังศพด้วย)

ต่อมาเมื่อปี 2535 ได้มีการก่อสร้าง “ศาลาศึกษาและปฏิบัติธรรม”
เป็นอาคาร 2 ชั้นพร้อมที่เก็บน้ำฝน งบประมาณก่อสร้างประมาณ
ล้านกว่าบาท ใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงแล้วเสร็จ
หลังจากนั้นหลวงพ่อสมบูรณ์ก็ค่อยๆปรับพื้นที่และปลูกต้นไม้ขึ้นมา
เป็นจำนวนมาก สร้างกุฏิที่พัก ห้องน้ำ เดินระบบไฟฟ้า วางระบบน้ำ
ได้อย่างลงตัวและเกิดประโยชน์สูงสุด


ด้วยหลักที่ว่า “เรียบง่าย ประหยัด สมดุลกับธรรมชาติ”
วัดถ้ำแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่ใครเข้ามาแล้วต่างพูดเหมือนกันว่า
“รู้สึกสงบ สบายใจ ร่มเย็น สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย”
สถานธรรมแห่งนี้ได้ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ และมีการสอนที่
เป็นธรรมชาติ เรียนกับความเป็นจริง ใช้ชีวิตอยู่กับการทำงาน

ดยเฉพาะหลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่“ทำให้ดู อยู่ให้เห็น ไร้เจตนา”
ธรรมะที่ท่านถ่ายทอดจึงออกมาจากชีวิตที่เป็นอยู่จริงๆ ยิ่งการทำงาน ถือว่าเป็นจุดเด่น
ท่านจะขยันขันแข็ง กระปรี้กระเปร่า ไม่มีย่อท้อเบื่อหน่าย แม้ว่าจะป่วยเป็นมะเร็ง
ต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย แต่ท่านก็ยังทำงานทุกอย่างตั้งแต่ กวาดใบไม้บนพื้น
และดาดฟ้ากุฎิเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา เลื่อยต้นไม้ที่ถูกลมพัดหัก ซ่อมท่อน้ำท่อประปา
แก้ไขบานประตู ทำโต๊ะไม้ ทำบันได ขุดดิน โกยหิน เกลี่ยหินซ่อมถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
ล้างแท้งค์น้ำ หิ้วปูน ปัดกวาดเช็ดถู รวมถึงซักผ้าซักจีวร ทำได้หมดทุกอย่าง
เป็นการสอนธรรมโดยไม่ต้องสอนอย่างแท้จริง

สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำเขาพระจึงไม่เน้นพิธีรีตอง ไม่ยึดติดกับความเชื่อ
แต่เน้นสติปัญญา รู้จักเหตุผล จึงไม่วุ่นวายผู้คน ไม่เน้นวัตถุก่อสร้าง ไม่เน้นปริมาณ
แต่ให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดธรรมะที่เอาไปใช้กับชีวิต ให้ชีวิตมีคุณภาพ
มีค่ามีราคา อยู่เย็นเป็นสุขและไม่มีทุกข์ เท่านั้นเป็นพอ 


แนวทางการปฏิบัติ

การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
เน้นให้รู้กาย รู้ใจ ให้รู้ความรู้สึก เห็นความรู้สึก อย่างต่อเนื่อง เคลื่อนไหวให้ตื่นตัว
ตื่นกายตื่นใจ คล่องแคล่วว่องไว มีชีวิตชีวา ร่าเริง เบิกบานแจ่มใส กระปรี้กระเปร่า
เป็นปกติอยู่กับทุกอิริยาบถ ยืนเดิน นั่ง นอน กิน เคี้ยว ดื่ม ปัดกวาดเช็ดถู
ล้างถ้วยล้างชาม เป็นการปฏิบัติธรรมทั้งหมด การเดินจงกรมของที่นี่ก็คือ
การเดินให้สบายๆ แบบปกติ หรือจะนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งเก้าอี้
ยังไงก็ได้ ขอให้”รู้สึกสบาย” หลวงพ่อสมบูรณ์ท่านจะบอกเสมอว่า
“ทำยังไงก็ได้ที่ทำแล้วสบายๆ”