มะเร็งต่อมน้ำเหลือง บททดสอบที่สำคัญของชีวิต



ชีวิตจริงๆไม่มีทุกข์  เรายังมีทุกข์อยู่ไหม?แต่ที่ยังมีทุกข์อยู่เพราะเราเห็นผิด เราจึงทุกข์ ถ้ารู้จักจะไม่ทุกข์ จะมีความสุข
เป็นยังไง วันๆ รู้สึกมีความสุขไหม?

หลวงพ่อมีความสุขนะ  ขนาดเป็นมะเร็ง ให้คีโมมา 12 ครั้ง หมอบอกเป็นระยะ 3 ระยะ 4  หมอบอกไม่ต้องทำอะไรแล้วหลวงพ่อก็บอกว่าก็ดีๆ จะได้อาศัยมะเร็งพาเข้าโลงเสียที แต่ผลที่สุดมันก็ไม่เอา มันทิ้งเราเลย  มะเร็งไม่พาเข้าโลง ตอนนั้นอายุเจ็ดสิบหก เจ็ดสิบเจ็ดปี ก็อยากเข้าโลงแล้ว
ปกติเขาเล่นหนังเล่นลิเกสองชั่วโมง ก็เลิกแล้ว ก็เข้าโรงแล้ว เราแสดงมาเป็นสิบปี ผ่านชีวิตมา ล้มลุกคลุกคลาน

เพราะตอนนั้นมันไม่รู้เหมือนอย่างนี้ ตอนนี้ก็เป็นมะเร็ง หมอบอกว่าเป็นมะเร็งมันก็เฉย ยังหัวเราะ บอกว่า ดี ดี ดี   มีความสุข มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะสุดท้ายด้วย ต่อมน้ำเหลืองนี่ร้ายแรงมากนะ หมอบอกว่ากระจายไปทั่วแล้วนะ
หมอคนแรกบอกว่า ไม่ต้องทำอะไร หลวงพ่อก็ว่า ดี ดี ดี ไม่ต้องทำอะไร เพราะ ตั้งใจไม่ต้องทำอะไรอยู่แล้ว
ตอนนั้น ปี 2549 มันจะขึ้นที่คอนี่ เต็มไปหมด ก็ไม่รู้ว่าเป็นมะเร็ง ขึ้นอย่างกับคอพอก จักกะแร้นี่ พูนเลย ขาหนีบอีก
ก็ไปหาหมอเขาเจาะเอาก้อนเนื้อไปตรวจ 7 วัน รู้เรื่องเลย หมอบอกว่า   เนี่ยหลวงพ่อเป็นมะเร็ง ระยะ 3 ตอนนั้นหมอเขาบอกระยะ 3     
 ไม่ต้องทำอะไรนะ หลวงพ่อว่า ดี ดี ดี เราก็ยังหัวเราะ ดีใจ รู้สึกพอใจ ก็มันแก่แล้ว คิดว่าเป็นโอกาสจะได้เข้าโลงเสียที  มีความสุข
ก็คิดว่าไม่รักษาหรอก อ๋อ ... มะเร็งมันเป็นอย่างงี้เหรอ ยังหัวเราะ ขำตัวเอง

จากนั้น เลยมา 4เดือน หมอเขาก็นัดไปตรวจทุกเดือนแต่ก็ไม่ได้ให้ยาอะไร  เขาสั่งเพียงว่า ถ้าเป็นอะไรให้ไปหานะ ถ้าเกิดเจ็บปวด
เขาอาจมียาให้ เพื่อไม่ให้มันทรมานนั่นเอง เราก็พอใจ     ดีแล้ว พอใจแล้ว พอต่อมาหมอคนแรกพอดีท้องแก่ไปคลอดลูก
หมอคนที่สองเข้ามา เขามาดู มาเห็นหลวงพ่อ 4 เดือนแล้วนะ
หมอคนหลังนี้เลยบอกว่า หลวงพ่อต้องให้คีโมแล้วนะ ตอนนั้นหลวงพ่อก็คิดว่าใช้สมุนไพรมาหลายเดือนแล้ว ไม่ดีขึ้น ยาจีนก็ไม่ดีขึ้น
ค่าใช้จ่ายก็เยอะ พวกสมุนไพรไม่ใช่ถูกๆ เลยตัดสินใจลองดู ไหนๆก็จะตายแล้ว ลองศึกษาดู มันก็ไม่ทุกข์อะไร เพียงอ่อนเปลี้ย ไม่มีแรง มันอ่อนแรง หมดสภาพเลย เหมือนชีวิตเรา 100 เปอร์เซนต์ เหลือแค่ 20เปอร์เซ็นต์  เท่านั้นเอง
ก็คิดว่า ตายนะ ไม่คิดว่ารอดหรอก แต่ก็พอใจ ก็ยังมีความสุข แต่มันอ่อนเปลี้ยไปหมด เดินนี่เซเลย ทรงตัวแทบไม่ได้   
พอให้คีโม ผ่านมา 2-3 เดือน มันยุบเลย ยุบแต่ยังเพลียนะ ยังไม่หาย มันชาไปหมดเลย คอนี่พองเลย กลืนน้ำลาย กลืนน้ำนี่แสบไปหมดมะเร็งนี่ร้อน คีโมนี่ก็ยิ่งร้อน ถ้าไม่มีธรรมะจะทรมานมากเลย มือนี่ไม่มีแรง บีบมะนาว นี่ บีบไม่ได้เลย ทำงานไม่ได้เลย
กวาดลานวัดก็กวาดไม่ได้ บีบผ้านี่ ยากมากเลย ไม่มีแรงเลย
พอให้คีโมมา 12 ครั้ง ให้คีโมเสร็จ ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้ ดีขึ้น รู้สึกปกติแล้ว หมอก็ติดตาม บอกว่าต้องติดตาม 5 ปี เอกซเรย์คอมพิวเตอร์
ที่โรงพยาบาลวชิระ  ไปฟังผลก็ไม่มีอะไร หมอบอกเลือดดี ก็ดี ก็ให้เขาทำไป
นี่แหละหลวงพ่อหายได้ เพราะอะไร เพราะอย่างนี้ ให้ดูความรู้สึก หลวงพ่อก็เห็นความรู้สึกเท่านั้น มันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่ได้ทรมาน นี่ อันนี้ฟังให้ดีๆนะ ส่วนมากพอรู้ว่าเป็นมะเร็ง อยู่ได้อีก  สามเดือน ห้าเดือน บางทีเดือนเดียวก็ไปแล้ว นี่แหละกำลังใจ อยู่ที่จิตใจ
แล้วก็ต้องรู้จักบริหารร่างกาย แกว่งแขน หลวงพ่อแกว่งวันนึง 5พันครั้ง  ไม่ใช่เวลาเดียวนะ 4 เวลา รำกระบี่กระบองอีก ชกลม แกว่งขา
ยืดเส้น จิตใจเราก็ต้องเข้มแข็ง จิตใจไม่มีตกเลย    ความรู้สึกไม่ตกเลย ความรู้สึก... ฮึดพร้อมที่จะเผชิญกับอะไรๆ เนี่ย... มีความสุข
ไม่ใช่เราต้องขืนใจ ฝืนใจ เนี่ยทำอย่างนี้มันก็ดีขึ้น ดีขึ้น
หลวงพ่อตอนเป็นมะเร็งยังช่วยก่อสร้างอาคารสามชั้น ที่วัดสนามใน  ปีนขึ้นปีนลง สำนักงานราคา2-3ล้าน ไปดูไดั ออกแบบ คุมงานเอง
พวกโยมเขาว่า ไปรับทำ ทำไมหลวงพ่อ ก็เรามีความสุข ทำแล้วมีความสุข  
 กำลังใจ ก็หมายถึง ให้เราตื่นเนื้อตื่นตัว อย่าปล่อยให้มันเบลอๆ อย่าให้มันสะลึมสะลือ  ให้มันแข็งแรง รู้จักพลิกจิตพลิกใจของเรา
ให้มันตื่นเนื้อ ตื่นตัว พร้อมที่จะเผชิญกับอะไรๆ อันนี้ต้องหัด คนเราส่วนมากมันจะท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจน่ะ
ถ้ามาเห็นความรู้สึก เราก็จะพลิกจิตของเราได้ อย่างตอนนี้ กำลังใจดีมั้ยล่ะ ตื่นเนื้อตื่นตัวดีมั้ย แข็งแรงมั้ย ความรู้สึก... มันแข็งแรง
มันไม่แข็งแรงก็รู้จัก ... ได้ ปรับได้ อารมณ์ไม่ดีก็รู้จักเปลี่ยนอารมณ์ใหม่ ได้ ทำอะไรก็ทำให้มันเต็มไม้เต็มมือ ไม่ใช่ทำแบบเหยอะๆแหยะๆ
มันไม่มีคุณภาพ เดี๋ยวนี้เราดูมีคุณภาพมั้ย ตื่นเนื้อตื่นตัว

ถ้าหลวงพ่ออยู่ต่อไปก็อยากจะถ่ายทอดเรื่องนี้แหล่ะ
ว่ารู้อย่างไรชีวิตที่เกิดมาจึงมีค่ามีราคา เกิดมาทำไม  ถ้าไม่รู้จักชีวิตแบบนี้  เสียดายนะ